อีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยปลดหนี้ ที่น่าสนใจมากทำให้คนคนหนึ่งที่มีรายได้สัก 40,000 บาทแต่ผ่อนบัตร 30,000/เดือน เหลือเงินใช้จ่ายอยู่แค่หมื่นเดียว ค่ารถไปกลับหมดก็หมดแล้วครับ อันนี้ยังไม่รวมค่ากินหรือค่าสังคมอย่างเช่น ค่าซองผ้าป่าหรือซองงานแต่ง วิธีนี้เขาเรียกว่าการลงทุนโดยคอนโดเงินเหลือหรือพูดง่ายๆคือลงทุนในคอนโดต่ำกว่าประเมินนั่นเอง โดยทางบริษัทของเราจะคัดสรรคอนโดคุณภาพเน้นว่าคุณภาพนะ ในราคาที่ต่ำกว่าประเมินค่อนข้างมาก เนื่องจากเราซื้อเหมามาทำให้ได้ราคาถูกเหลือเงินคืนลูกค้าสามารถนำไปใช้ประโยชน์จากตรงนั้นได้ ซึ่งเคสนี้ลูกค้านำไปปลดหนี้หมด แล้วมาผ่อนแค่คอนโดทำให้คุณผ่อนถูกลงจากที่ผ่อนเดือนละ 30,000 บาท เหลือผ่อนสักประมาณเดือนละหมื่นต้นๆ แค่นี้เองทำให้คุณสบายใจขึ้น ส่วนห้องคอนโดก็ไม่ได้ไปซื้อมาตั้งไว้เฉยๆ ก็หาคนมาเช่าอยู่ทำให้ช่วยผ่อนแบงค์ ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่มันอาจจะมันอาจจะได้สักประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ผ่อนแบงค์ก็ถือว่าโอเคแล้วเพราะเราไม่ต้องควักเงินลงทุนใดๆเลย แต่จ่ายค่าห้องประมาณ 20เปอร์เซ็นต์เอง แล้วได้คอนโดเป็นทรัพย์สินส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์อย่างนึงพอเราถือไว้สัก 5 ปีก็สามารถนำไปขาย ซึ่งแน่นอนราคาอาจจะขึ้นประมาณระดับแสน ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์จะขึ้นทุก ๆปี ซึ่งก็เป็นข้อดีของการลงทุนในคอนโดอย่างหนึ่งครับ นอกจากไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียวแต่เราได้เงินก้อนมาปลดหนี้ และเวลาขายก็ทำกำไรได้ตลอด
ผมสมมุติว่าในแต่ละคน มีหนี้ไม่น้อยกว่า 3 อย่าง ซึ่งมีวิธีปลดหนี้คร่าวๆอยู่ 4 วิธี เรียงจากวิธีหนี้น้อยไปหาหนี้มาก
วิธีที่1 เป็นการเลือกจ่ายหนี้ ที่คิดว่าดอกเบี้ยมากที่สุดจากหนี้ทั้งหมด วิธีนี้จะทำให้เสียดอกเบี้ยประหยัดขึ้น แต่ใช้ได้กับพวกหนี้ที่ลดต้นลดดอกเท่านั้น วิธีที่2 เป็นการกู้สินเชื่อที่ดอกเบี้ยน้อยกว่าเอามาจ่ายปิดสินเชื่อที่ดอกเบี้ยแพงกว่า จะทำให้เราเสียดอกเบี้ยลดลงเป็นเงาตามตัว วิธีที่3 ขายทรัพย์สินเพื่อนำมาจ่ายหนี้ ทรัพย์สินดังเช่น บ้าน / รถ สามารถไปขายหรือรีไฟแนนท์ เพื่อนำมาปิดสินเชื่อที่ดอกเบี้ยแพงที่ติดอยู่ได้ ทั้ง 3 วิธีนี้ บางคนไม่สามารถทำการปลดหนี้ได้เนื่องจากติดหนี้เยอะมากจนเกินวงเงิน ธนาคารหรือไฟแนนซ์จึงตีตกไม่ให้ผ่าน เราจึงเสนออีกแนวทางนั่นคือ วิธีที่4 หยุดจ่ายบางสินเชื่อ แล้วเก็บเงินก้อนไว้รอเจรจา แนวทางนี้ต้องต้องก่อนว่าเราต้องบอกกับทางธนาคารไปตรง ๆเลยว่าจะขอไม่จ่าย เนื่องจากไม่มี จากนั้นต้องทยอยเก็บเงินก้อนไว้ จนกว่าจะมีเท่าหรือใกล้เคียงกับตอนก่อนหยุดจ่าย ซึ่งคาดว่าจะกินเวลาหลักเดือนหรือบางรายเป็นหลักปี แล้วจะเปิดเจรจากับทางธนาคารเพื่อที่จะจ่ายหนี้ก้อนนั้น ปกติธนาคารจะคิดค่าทวงถามหรืออะไรประมาณรวมๆแล้วมากกว่าเดิมแน่นอน แต่ในบางรายสามารถพูดคุยและตกลงให้เจ้าหนี้ช่วยลดหย่อนหรือบรรเทาสำเร็จมาแล้วโดยใช้แนวทางนี้ แม้จะเป็นแนวทางที่ดีแต่ต้องแลกมาด้วยบูโรที่ไม่สวยงามนัก ซึ่งสุดท้ายแล้วจะใช้แนวทางการปลดหนี้ด้วยวิธีการใด ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วย ส่วนแนวทางในการเพิ่มมูลค่าเงิน ซึ่งคนเป็นหนี้เองควรจะเพิ่มรายได้เพื่อให้เพียงพอกับรายจ่ายและนำไปปลดหนี้ โดยมี 4 แนวการหารายได้มาเสนอ 1.ขายของดรอปชิป 2.ขายของพรีออเดอร์ 3.ทำอาชีพนายหน้า 4.เปิดคอร์สสอน ซึ่งรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ จะนำเสนอในโอกาสถัดไป แต่อยากให้ทุกคนได้เกิดไอเดียในการหารายได้เพิ่มจากแนวทางข้างต้น เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมาย ในสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้เราๆท่านๆก็ทราบกันดีอยู่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะเมืองไทยแต่มันเป็นผลกระทบเอฟเฟคมาจากเมืองนอกด้วย ฉะนั้นจึงกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเราเป็นหนี้กันเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะไปรู้วิธีปลดหนี้ เรามารู้จักสาเหตุของการเป็นหนี้ โดยได้แบ่งคนเป็นหนี้อยู่ 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก เรียกว่าคนใช้จ่ายเกินตัวแบบฟุ้งเฟ้อ คนประเภทนี้จริง ๆแล้ว มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกว่า สาเหตุเนื่องจากตัวเขาเองไม่มีวินัยในการใช้จ่าย หรือจริง ๆแล้วเป็นสังคมที่บีบคั้นให้เขาต้องใช้เงินเกินตัวก็ได้ ประกอบกับภาวะตอนนี้บัตรเครดิตก็ดี เงินนอกระบบก็ดี กู้ง่ายกดง่ายใช้ง่าย ทำให้คนจึงมีภาวะเป็นหนี้ค่อนข้างง่าย ยกตัวอย่างวันนี้ร้อนก็ไปซื้อแอร์เข้ามาติดเลยผ่อน 0% 10 เดือน เป็นต้น หรือบางคนติดหวย เล่นหวยเกินตัวก็มี เล่นหวยใต้ดินเกินตัวเพราะลักษณะคนพวกนี้คือ เล่นก่อนจ่ายทีหลัง บางคนเงินเดือนแค่สองหมื่นแต่ แทงหวยงวดละหมื่น พอเสียแล้วก็หนีไม่พ้นต้องไปกู้พวกนอกระบบพวกหมวกกันน็อคมาจ่าย หรือบางคนก็หวังจากงวดหน้าเอามาปลดหนี้วนเวียนทับถมกันไป กลุ่มที่สอง เป็นลักษณะแบบเป็นนี่ด้วยความจำเป็น ยกตัวอย่าง การซ่อมแซมรั้ว รั้วอันนึงเนี่ยเราต้องจ้างช่างหรือเหมางาน 10000 บาท คนหาเช้ากินค่ำไม่มีหรอกนะครับเงิน 10000 บาท ต้องกู้ครับ ลักษณะนั้นจึงทำให้เขาเป็นหนี้หรือ อีกอย่างหนึ่งก็คือผู้มาเพื่อการลงทุน อย่างเช่นวันนี้คิดอยากจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอาจจะใช้เงินประมาณ 30000 บาท และต้องไปกู้มาอีก 20,000 บาทเพราะว่าเขาคิดแล้วว่าทำเลดีขายได้แน่นอน วันละ 200-300 ชาม ปรากฏว่ามันขายได้น้อยไม่เป็นไปตามที่คาด สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถที่จะนำเงินหมุนไปใช้หนี้ต่อได้ อันนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง หรือบางครั้งเอาเงินไปเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ บางธุรกิจเนี่ยอยู่ได้ด้วยการต้องให้เครดิต เพราะถ้าเราไม่ให้เครดิตกับลูกค้า เราก็จะสูญเสียโอกาสทางการเงินด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเราขายของให้อาแปะ อาแปะก็อยากได้เครดิตจากเรา ซึ่งเราก็ไม่มีเงินมากมาย แต่ถ้าเราไม่ให้เครดิตอาแปะ เค้าก็พร้อมจะไปซื้อของคนอื่นไงครับ ฉะนั้นเราก็ต้องไปกู้มาที่ดอกเบี้ยดูแล้วมันสมเหตุสมผลกับการที่จะให้ เพราะลูกค้าแบบนี้จะขายได้ดีมาก ทั้งหมดทั้งมวลรวมแล้วเนี่ยก็หนีไม่พ้นวงเวียนของการเป็นหนี้นะครับ การกู้เงินจริง ๆแล้วไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายนะแต่ว่าพอได้ก้าวเข้าไปอยู่ในวงเวียนที่มันเกิดการกู้เงินแล้ว มันจะทำให้เรามีชนักติดหลัง แล้วคนโดยมากจะหลุดออกมาจากตรงนั้นน่ะลำบากมากกว่าจะปลดหนี้หมด |
|